วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ภาพกิจกรรม "เยาวชนอาสาประชาธิปไตยวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น" ปี พ.ศ.2537


เข้าร่วมงาน "เยาวชนอาสาประชาธิปไตย" ณ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
เริ่มจากแถวนั่ง "น้องนิว" และ "พี่แอม"
แถวสอง จากขวา (จำเพื่อนไม่ได้เพราะเขาเรียนคณะคหกรรมศาสตร์ ) คนที่สองเสื้อขาว "พี่โจ"
              คนถัดไปจำชื่อไม่ได้และไม่ได้
แถวหลังสุด จากขวา "พี่ม๊อบ (อรอุมา ศรเกตุ)" เสื้อดำ และ พี่เอ (สุภาวิไล ชุมแวงวาปี)
  ต้องขออภัยเพื่อนที่จำชื่อไม่ได้ หากใครมีข้อมูลกรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะค่ะ

กำเนิด "พี่เลี้ยงลูกเสือ" วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น

          ก่อนที่จะมาเป็น "เยาวจิตอาสา" เดิมทีเราเรียกกลุ่มทำงานนี้ว่า "กลุ่มพี่เลี้ยงลูกเสือ" เกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2537 โดยการริเริ่มของ "อาจารย์พฤทธิ์ คุปรัตน์" หรือที่พวกเราเรียกท่านว่า "พ่อพฤทธิ์" ท่านได้แรงบันดาลใจ จากที่ท่านเคยเป็นลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครบำเพ็ญประโยชน์กับโรงเรียนมาโดยตลอด เมื่อท่านมารับราชการเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ท่านก็ได้รับมอบหมายจากท่านรองผู้อำนวยการในขณะนั้น คือ นายประสิทธิ์ อังกินันท์ (หัวหน้างานกิจกรรมในสมัยนั้น ในปี พ.ศ.2535) มอบหมายให้ท่านกำกับดูแลพี่เลี้ยงลูกเสือวิสามัญของทางวิทยาลัย ฯ และได้นำพี่เลี้ยงลูกเสือไปบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือ ในงานกิจกรรมต่าง ๆ มากมายอยู่อย่างต่อเนื่อง 
          จนกระทั่งในปี พ.ศ.2536 ท่านได้ย้ายมารับราชการอยู่ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ท่านได้รับผิดชอบในงานแนะแนวแก่นักศึกษาอีกหน้าที่หนึ่งที่ว่างจากการสอน ประมาณเดือนมกราคม 2537 ท่านอาจารย์ไตรภพ เทียบพิมพ์ ได้ชักชวนให้ท่านร่วมกันฝึกพี่เลี้ยงลูกเสือของวิทยาลัย ซึ่งปกติแล้วทางวิทยาลัยก็ไม่มีกองพี่เลี้ยงลูกเสือเหมือนกับวิทยาลัย อาชีวศึกษาอุดรธานี โดยท่านทั้งสองได้ประกาศรับสมัครนักศึกษาที่สนใจจะช่วยงานกิจกรรมของ วิทยาลัย โดยระบุว่า จะต้องเป็นบุคคลที่มีจิตอาสาที่จะช่วยเหลืองานวิทยาลัยและต้องเข้ารับการ ฝึกฝนอย่างหนัก เน้นอย่างหนัก...จากอาจารย์ และทีหน้าที่นอกเหนือจากช่วยงานกิจกรรม จะต้องทำหน้าที่ช่วยเหลืออาจารย์และรับผิดชอบรุ่นน้องในชั่วโมงกิจกรรมวิชา ลูกเสือ ซึ่งมีนักศึกษาที่ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 35 คน ในปีเดียวกันหลักจากการเข้าค่ายลูกเสือของนักศึกษาชั้น ปวช.1 สิ้นสุดลง (เข้าค่าย 3 วัน 2 คืน ที่ค่ายลูกเสือแก่นนคร) และเห็นผลงานของรุ่นพี่ที่มีจิตอาสา อาจารย์พฤทธิ์ ท่านได้มองเห็นว่าวิทยาลัยควรจะมีพี่เลี้ยงลูกเสืออยู่เป็นการถาวรดังเช่น วิทยาลัยอื่น ๆ จึงเรียกพี่เลี้ยงลูกเสือทั้งหมดมาทราบเจตนารมณ์และรับสมัครผู้ที่สนใจจะ อยู่ช่วยกันทำงานต่อไป ซึ้่งมีผู้สนใจที่จะทำงานเป็นพี่เลี้ยงลูกเสือต่อไปจำนวนทั้งสิ้น 4 คืน คือ นางสาวทองพาด คูณพันธ์ (พี่ต้อย) เรียนอยู่ ปวส.1, นางสาววลีพร ศรเกตุ (พี่โจ), พี่หนึ่ง  พี่เก๋ (ทั้งสามคนเรียนอยู่ ปวช.2) 
            เมื่อเริ่มปีการศึกษาใหม่ พ.ศ.2537 จึงได้มีการเปิดรับสมัครพี่เลี้ยงลูกเสือจากนักเรียน ปวช.2 ซึ่งมีผู้สนใจสมัครเข้ามาเป้นจำนวนมากจนต้องมีการคัดเลือกกัน โดยการฝึกซ้อมอย่างหนัก และพิจารณาจากความเข้มแข็ง ความตั้งใจ ความมีน้ำใจ ความเสียสละและยินดีบำเพ็ญประโยชน์บริการสังคมส่วนรวม ในที่สุดก็ได้พี่เลี้ยงลูกเสือมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่ 3 โดย มี
  1. นางสาวทองพาด คูณพันธ์ (พี่ต้อย) เป็นประธานรุ่นที่ 1 (เป็นเจ้าหน้าที่ระดับรองผู้จัดการของดีแทค สาขาขอนแก่น)
  2. นางสาววลีพร  ศรเกตุ  (พี่โจ)        เป็นประธานรุ่นที่ 2  (รับราชการสำนักงานอัยการสูงสุด ในตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน ปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงขอนแก่น)
    (ต้องขออภัยรุ่นน้องที่เป็นประธานรุ่นต่อๆ มาเพราะว่า ผู้เขียนเป็นประธานรุ่นที่ 2 จำไม่ได้ว่าน้องรุ่นต่อๆ มามีใครบ้าง หากใครมีข้อมูลก็กรุณาแบ่งปัน หรือฝากข้อความไว้ได้ แล้วจะนำมาแก้ไขใหม่ หรือบางที อาจจะรวบรวมทำหนังสือรุ่นในแต่ละปีได้ )

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

อันตรายจากข้าวมันไก่

อันตรายจากข้าวมันไก่
บัณฑิตวิทยาศาสตร์การอาหารตรวจพบเชื้อแบคทีเรียในปริมาณที่เกินมาตรฐาน ของกรมวิทยา ศาสตร์ การแพทย์ในจานข้าวมันไก่ที่วางรอขายนานเกิน 4 ชั่วโมงเตือนผู้ซื้อควรร้องขอให้ผู้ขายลวกเนื้อไก่ซ้ำก่อนซื้อหรือกินเพื่อป้องกันและควบคุมอันตรายจากโรคทางเดินอาหาร
      จากการสุ่มตรวจข้าวมันไก่ซึ่งนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายและมีขายอยู่มากตาม ริมบาทวิถีทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดโดยนางสาวปรารถนา เกิดบัวบัณฑิต วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การอาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าข้าวมันไก่เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์ สูงแม้ว่าจะผ่าน การปรุงสุกแล้วก็ตามโดยไก่ต้มตัวสุดท้ายถูกแขวนไว้รอขายนาน 8-9 ชั่วโมงจนกว่าจะปิดร้านขณะที่ FAD Food Code

       แนะนำเวลาในการรอเสิร์ฟไม่ควรเกิน 4 ชั่วโมงนับตั้งแต่การปรุงสุกสำหรับแบคทีเรียที่ตรวจพบในข้าวมันไก่ คือ S.aureus, C.perfringens, Salmonella โดยเฉพาะเนื้อไก่ที่ปรุงทิ้งไว้ใน อุณหภูมิห้องนานเกิน 5 ชั่วโมงเชื้อจะเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้นมากและ พบเชื้อ E.coli ในแตงกวาปอกเปลือกทุกชิ้นที่เป็น เครื่องเคียงกินกับข้าวมันไก่คาดว่าติดมากับใบมีด เขียงและมือที่ไม่สะอาดโดยจุลินทรีย์ที่พบสามารถก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนท้องเดิน ปวดท้องมีไข้ หนาวสั่นและอ่อนเพลีย

      แต่ความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นจะแตกต่างไปตามปริมาณและชนิดของเชื้อที่ บริโภคผู้วิจัยเสนอแนะว่ามาตรการควบคุมจำนวนจุลินทรีย์ทั้งหมดให้อยู่ใน เกณฑ์คุณภาพคือ ควรจำกัดเวลาขายไม่เกิน 4 ชั่วโมงโดยนับเวลาตั้งแต่ต้มไก่สุกจนกระทั่งขายหากเกินเวลาควรมีการอุ่น อาหารก่อนรับประทานซึ่งจะเป็นทางเลือกทำให้เกิดความปลอดภัยต่อการบริโภค มากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ผู้ขายควร ระมัดระวังการสัมผัสอาหารที่ปรุงสุกแล้วด้วยมือหรืออุปกรณ์ และภาชนะที่ไม่ สะอาดเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค
    
สำหรับจุลินทรีย์ในน้ำจิ้มข้าวมันไก่มีค่าสูงเกินเกณฑ์คุณภาพทางจุล ชีววิทยาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อาจเกิดจากการปนเปื้อนมาจากวัตถุดิบไม่สะอาด แต่เนื่องจากระดับ pH ของน้ำจิ้มข้าวมันไก่วัดได้ 4.22 ขณะที่เชื้อแบคทีเรียจะเจริญได้ดีในอาหารที่มี pH 5.5-7.0 ดังนั้นสภาวะในน้ำจิ้มจึงไม่เหมาะ ต่อการเจริญของแบคทีเรียอย่างไรก็ตามร้านค้าควรเปลี่ยนน้ำจิ้มใหม่ทุกวัน
 


     


--------------------
 









 
 

วิธีดูธนบัตรปลอม

วิธีดูธนบัตรปลอม

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"ไม้มงคล" ประจำวันเกิด


ไม้มงคลของคนที่เกิดวันอาทิตย์ จะเป็นไม้ดอกสีเหลือง หรือสีส้ม เนื่องจากสีเหลืองและสีส้มเป็นสีที่ถูกโฉลก ต้นไม้ที่เป็นสิริมงคลของคนเกิดวันอาทิตย์มี ดังนี้
·         โป๊ยเซียน จะเป็นพันธุ์ใดก็ได้แต่จะต้องมีดอกสีเหลือง หรือสีส้ม และจะเป็นมงคลอย่างยิ่งหากเป็นสีส้มหรือสีเหลืองในดอกเดียวกัน โป๊ยเซียนไม้แห่งโชคลาภจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก
·         โกสน เป็นไม้ที่ใบมีสีสันต่างๆ ทั้งเหลือง เขียว แดง ส้ม ซึ่งก็เป็นสีที่ถูกโฉลก คำว่าโกศลนั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
·         จำปา ถือเป็นต้นไม้ที่จะนำโชค และเหมาะสมกับคนเกิดวันอาทิตย์อย่างยิ่ง
·         ชบา ทั้งที่ดอกสีเหลือง และ สีส้ม ซึ่งจะทำให้บ้านดูสดใส
·         ราชพฤกษ์หรือคูน ด้วยดอกที่เป็นพวงระย้าสวยงาม และมีดอกสีเหลืองตัดกับสีของท้องฟ้าในฤดูร้อน จะทำให้บ้านดูสดใส และยังมีความเป็นมงคลทางด้านช่วยให้มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี
 
·         ชุมเห็ดเทศ
·         กุหลาบ ควรเป็นกุหลาบดอกสีเหลือง หรือส้ม หากนำมาปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ
 

ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันจันทร์ ถ้าเป็นไม้ดอกควรเป็นไม้ที่มีดอกสีขาวหรือเหลืองจะถูกโฉลกมาก คนเกิดวันจันทร์จะมีต้นไม้มงคลให้เลือกปลูก ดังนี้

·     วาสนา ตามตำรามิได้ระบุไว้ว่าเป็นวาสนาพันธุ์ใด แต่ขึ้นชื่อว่าวาสนาแล้วนั้นให้คุณทั้งสิ้น วาสนาราชินี จะให้คุณทางด้านบุญที่สูงล้น มีโชควาสนา วาสนาอธิษฐาน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสุข สมหวัง ทำให้เกิดแรงบันดาลตามความปรารถนา
·     โกสน นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
·     มะลิ ไม่ว่าจะเป็นมะละซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลทางด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักและความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป
·     ราตรี นอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจยังให้ความเป็นสิริมงคลดีมาก
·     มะม่วง นอกจากจะเก็บผลกินได้แล้ว ยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้ปลูกร่ำรวยยิ่งขึ้นอีกด้วย
·     ฝรั่ง
·     กวนอิม เชื่อกันว่าเมื่อปลูกกวนอิมในบ้านจะเกิดเป็นสิริมงคล นำผลให้มีฐานะดี เกิดความร่ำรวย
·     โป๊ยเซียน ควรเลือกปลูกที่ดอกสีขาว หรือสีเหลือง โป๊ยเซียนนั้นจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก
·     จำปี หากนำมาปลูกในบ้านจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า
·     พลูด่าง เป็นไม้ที่เจริญงอกงามง่าย ให้คุณทางด้านการเจริญงอกงามในชีวิต
·     แก้ว คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลุกต้นแก้วไว้จะทำให้คนในบ้านนั้นมีความดี มีความสูงค่า มีจิตใจแจ่มใสบริสุทธิ์ดุจแก้ว
·     มะละกอ
·     มะยม เชื่อว่าสามารถป้องกันความถ่อย ถ้อยความ และผีร้าย แต่บางตำราว่าจะทำให้ผู้คนนิยมชมชอบ
·     ชะพลู ปลูกไว้เพื่อเสริมสิริมงคล แก่คนเกิดวันจันทร์
·     บัวบก
·     กระถิน ท่านว่าสามารถป้องกันเสนียดจัญไร
ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันอังคาร สีมงคลของคนวันอังคารคือ สีแดง หรือชมพู ดังนั้นไม้ดอกที่ปลูกควรเป็นสีใดสีหนึ่งนี้ ไม้ประดับที่เป็นสิริมงคล ได้แก่
·     กุหลาบ ควรปลูกที่ดอกสีแดง หรือชมพู เพื่อก่อให้เกิดความเป็นมงคล เกิดความสุขความสบายใจ และมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ

·     โป๊ยเซียน เลือกที่ดอกสีแดงหรือชมพู จะช่วยให้มีความโชคดีในชีวิตเสมอ 
        อัญชัน เป็นไม้ประดับที่ให้คุณกับคนเกิดวันอังคารทางด้านความเป็นสิริมงคล
·     โกสน นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
·     เข็ม ควรเป็นเข็มแดงหรือชมพู ปลูกต้นเข็มไว้ในบริเวณบ้านเชื่อว่าจะทำให้สมองปลอดโปร่ง เกิดความคิดความอ่านที่ดี ให้คุณโดยทั่วไปด้วย
 
 
 
·     ชบา ที่ถูกโฉลกต้องเป็นชบาสีแดงหรือชมพู ให้คุณด้านการงานเจริญก้าวหน้าไร้ปัญหาและอุปสรรค
·     พญายอ หากคนวันอังคารปลูกเลี้ยงไว้ท่านว่าจะทำให้ดำเนินชีวิตราบรื่นเป็นสุขสมบูรณ์
ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันพุธ มีหลายชนิด ไม่ว่าจะเกิดพุธกลางวันหรือกลางคืนจะมีไม้มงคลอย่างเดียวกัน และควรเลือกที่มีดอกสีเหลืองซึ่งเป็นสีต้องโฉลก
·     กวนอิม เชื่อกันว่าเมื่อปลูกกวนอิมในบ้านจะเกิดเป็นสิริมงคล นำผลให้มีฐานะดี เกิดความร่ำรวย
·     วาสนา ชื่อก็เป็นสิริมงคลอยู่แล้ว หากปลูกร่วมกับต้นกวนอิมจะเหมาะสมอย่างยิ่ง ตามตำรามิได้ระบุไว้ว่าเป็นวาสนาพันธุ์ใด แต่ขึ้นชื่อว่าวาสนาแล้วนั้นให้คุณทั้งสิ้น วาสนาราชินี จะให้คุณทางด้านบุญที่สูงล้น มีโชควาสนา วาสนาอธิษฐาน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสุข สมหวัง ทำให้เกิดแรงบันดาลตามความปรารถนา
·     พลูด่าง เป็นไม้ที่เจริญงอกงามง่าย ให้คุณทางด้านการเจริญงอกงามในชีวิต
·     โป๊ยเซียน ควรเป็นโป๊ยเซียนที่มีดอกสีเหลือง จะต้องโฉลกกว่าสีอื่นๆ โป๊ยเซียนนั้นจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก
·     มะละกอ
·     กล้วย ไม่ว่าจะเป็นกล้วยชนิดใด จะให้ผู้ปลูกร่มเย็นเป็นสุขกายสบายใจ
·     ราชพฤกษ์หรือคูน เป็นไม้ที่ให้ความสดใสแก่บ้าน ด้วยดอกที่เป็นพวงระย้าที่สวยงาม และสีเหลืองที่จะตัดกับสีของฟ้าในฤดูร้อน และยังมีความเป็นมงคลทางด้านช่วยให้มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี
·     กุหลาบ หากเป็นสีเหลืองจะดีที่สุดสำหรับผู้ที่เกิดวันพุธ จะทำให้ประสบกับความสุขสมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน
·     โกสน นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
·     ชบา ควรเลือกปลูกชบาที่ดอกสีเหลือง จะต้องโฉลกที่สุด
ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดี ควรเป็นไม้ดอกสีขาวจึงจะต้องโฉลก
·     มะลิ ถือเป็นไม้มงคลที่สูงค่าจึงนิยมใช้บูชาพระ ไม่ว่าจะเป็นมะละซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลทางด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักและความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป
·     จำปี เป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่งของผู้เกิดวันพฤหัสบดี หากนำมาปลูกในบ้านจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า
·     ราตรี นอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจยังให้ความเป็นสิริมงคลดีมาก
·     พุด ไม่ว่าจะเป็นพุดชนิดใดจะส่งผลให้มีความเจริญ มั่นคง แข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งสิ้น แต่ควรเป็นพุดชนิดที่ดอกสีขาว
·     มะละกอ
·     กุหลาบ ควรเป็นดอกสีขาว หากนำมาปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ
·     แก้ว ท่านว่าปลูกแล้วจะส่งผลให้คนในบ้านนั้นมีความดี มีความสูงค่า มีจิตใจแจ่มใสบริสุทธิ์ดุจแก้ว
ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันศุกร์ มีดังนี้
·     กุหลาบ ควรเป็นกุหลาบแดง หรือชมพู หากนำมาปลูกเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดความสง่างาม ภาคภูมิ
·     อัญชัน นั้นให้คุณด้านการประสบความสำเร็จในชีวิต
·     เข็ม หากปลูกเข็มไม่ว่าจะสีแดงหรือชมพูไว้ในบ้าน จะทำให้ชีวิตก้าวหน้าไปด้วยดี
·     ชบา เป็นไม้ที่เป็นสิริมงคลของคนเกิดวันศุกร์ จะสีแดงหรือชมพูก็ดีทั้งสิ้น
·     โกสน นั้นพ้องกับคำว่า กุศล จึงเชื่อว่า คือการสร้างบุญ คุณงามความดี ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข
·     โป๊ยเซียน ควรปลูกที่ดอกสีแดงหรือชมพู โป๊ยเซียนนั้นจะนำโชคลาภมาให้กับผู้ปลูก
ไม้มงคลสำหรับคนเกิดวันเสาร์ มีดังนี้
วาสนา ตามตำรามิได้ระบุไว้ว่าเป็นวาสนาพันธุ์ใด แต่ขึ้นชื่อว่าวาสนาแล้วนั้นให้คุณทั้งสิ้น วาสนาราชินี จะให้คุณทางด้านบุญที่สูงล้น มีโชควาสนา วาสนาอธิษฐาน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสุข สมหวัง ทำให้เกิดแรงบันดาลตามความปรารถนา
มะลิ ไม่ว่าจะเป็นมะละซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลทางด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักและความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป
กวนอิม เป็นไม้ที่ชื่อเป็นสิริมงคล ดังนั้นนอกจะเป็นมงคลแก่ผู้เกิดวันเสาร์แล้วยังส่งผลถึงบุคคลอื่นในครอบครัวด้วย เชื่อกันว่าเมื่อปลูกกวนอิมในบ้านจะเกิดเป็นสิริมงคล นำผลให้มีฐานะดี เกิดความร่ำรวย
จำปี หากนำมาปลูกในบ้านจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า
จำปา ถือเป็นต้นไม้ที่จะนำโชค และเหมาะสมกับคนเกิดวันเสาร์อย่างยิ่ง
ราชพฤกษ์หรือคูน ด้วยดอกที่เป็นพวงระย้าที่สวยงาม และสีเหลืองที่จะตัดกับสีของฟ้าในฤดูร้อน จะทำให้บ้านดูสดใส และยังมีความเป็นมงคลทางด้านช่วยให้มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี
มะม่วง นอกจากจะเก็บผลกินได้แล้ว ยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้ปลูกร่ำรวยยิ่งขึ้นอีกด้วย
 


วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คำสอนของ "แม่"


              แม่เคยพูดกับฉันตอนเป็นเด็กว่า "แม่อาบน้ำร้อนมาก่อนเอ็ง" ฉันแอบเถียงแม่ขาดใจ น้ำร้อนก็ "ต้มคนละหม้อ" บ้างหล่ะ "ต้มคนละเตา" บ้างหล่ะ

               ฉันลืมไปว่า "น้ำร้อน" ต่อให้เราต้ม "หม้อใบไหน" หรือ "เตาไหน" ก็ทำให้ผิวเราไหม้ หรือพุพองได้เหมือนกัน"


แบบบ้านชั้นเดียว