วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แพทเทิร์นแจกฟรี ตุ๊กตาหมีโพล่าร์

ตุ๊กตาหมีโพลาร์
อุปกรณ์ที่ใช้ : เข็มควักเบอร์ 5/7, เข็มเย็บ, ลูกตาแบบกระดุม 9mm, ใยสังเคราะห์,
ไหมพรมอีเกิ้ลสีขาวและสีอื่นๆตามชอบ, ไหมปักจมูกสีน้ำตาล

หัว สีขาว

แถวที่                   จำนวนโซ่                          วิธีถัก

1                                 6                                      6x
2                                12                                     6v
3                                18                                     xv (6ครั้ง)
4                                24                                     2xv (6ครั้ง)
5                                30                                     2xv 3xv(5ครั้ง) x
6                                36                                     4xv (6ครั้ง)
7                                42                                     3xv 5xv(5ครั้ง) 2x
8                                48                                     6xv (6ครั้ง)
9                                54                                     4xv 7xv(5ครั้ง) 3x
10                              54                                     54x
11                              54                                     54x
12                              54                                     54x
13                              48                                     7xA (6ครั้ง)
14                              42                                     3xA 6xA(5ครั้ง) 3x
15                              36                                     5xA (6ครั้ง)
16                              30                                     2xA 4xA(5ครั้ง) 2x
17                              24                                     3xA(6ครั้ง)
18                              18                                     xA 2xA(5ครั้ง) x
ยัดใยสังเคราะห์

ตัว สีขาว

แถวที่              จำนวนโซ่           วิธีถัก
1                       6                          6x
2                       12                        6v
3                       18                        xv (6ครั้ง)
4                       18                       18x
5                       18                       18x
6                       18                       18x
7                       18                       18x
8                       18                       18x
9                       18                       18x
ยัดใยสังเคราะห์

จมูก สีขาว
แถวที่      จำนวนโซ่      วิธีถัก
1                 6                  6x
2                12                  6v
3                18                  xv    (6ครั้ง)
4                18                 18x
ไม่ต้องยัดใยสังเคราะห์


หู

แถวที่       จำนวนโซ่          วิธีถัก
1                   6                    6x
2                   9                    xv (3ครั้ง)
3                   9                   9x

แขน


แถวที่  จำนวนโซ่  วิธีถัก
1               5              5x
2              5               5x
3              5               5x
4              5               5x
5             5                5x
6             5                5x
ขา

แถวที่ จำนวนโซ่       วิธีถัก
1              6                6x
2              6                6x
3             6                 6x
4             6                 6x
5             6                 6x
ผ้าพันคอ : ใช้เข็มเบอร์ 7/0 ถักโซ่ โดยใช้ไหมพรมถัก 2 เส้นควบ จนได้ความยาวพอเหมาะ

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

"แอลคาเนทีน" สำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนัก

"แอลคาเนทีน" สำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนัก


ผลของการรับประทาน แอลคาร์นิทีน

Carnitine ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย โครเมียม ช่วยเสริมฤทธิ์ของ L-Carnitine ในการเผาผลาญไขมัน ถั่วขาว ช่วยลดการดูดซึมแป้ง แคปซิคั่ม ช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย ยับยั้งการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลเป็นไขมันสะสมตามร่าง

ผอมได้ไวด้วยแอลคาร์นิทีน

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดต้นแขน ต้นขา หน้าท้องและกระชับสัดส่วน ไม่โยโย่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีน้ำหนักเพิ่มหลังคลอดบุตร หน้าท้องหย่อนยานสามารถลดน้ำหนักได้ ยิ่งถ้าออกกำลังกายด้วยแล้วยิ่งทำให้เห็นผลเร็วไว

แอลคาร์นิทีนแบบฉีด
เพื่อเป็นการเร่งเผาพลาญไขมันส่วนเกิน ได้อย่างรวดเร็ว ลดได้สัปดาห์ละ 2-4 กิโล ไม่มีอันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอน เพราะแอลคาร์นิทีนจะเข้าไปช่วยเร่งละเปลี่ยนไขมันสะสมในร่างกายเป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้



แอลคาร์นิทีน กับการลดน้ำหนัก

ความเป็นจริงนั้น หน้าที่หลักของ Carnitine จะช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเล็กๆ เข้าไปใช้ใน เซลล์ต่างๆ ซึ่งในจุดนี้เองที่จะทำให้เกิดการนำไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน ดังนั้นหากร่างกายขาดสาร Carnitine หรือมีไม่เพียงพอที่จะเป็นตัวพาเม็ดไขมันไปเผาผลาญแล้วละก็ ปัญหาสุขภาพ

แอลคาร์นิทีน พลัส

มีแอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ ทำหน้าที่ช่วยเร่งการเผาผลาไขมันลดความอ้วน ลดไขมันส่วนเกิน ดักจับไขมันสัตว์ คาร์โบไฮเดรต และแป้ง ช่วยให้ไตรกลีเซอร์ไรด์ (triglycerides) อยู่ในระดับต่ำ ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยป้องกันการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การขอมีและใช้อาวุธปืน

การขอซื้อขอมีและขอใช้อาวุธปืน

๑.สถานที่แจ้ง
- คนที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ขอที่กรมการปกครอง
- คนที่อยู่ต่างจังหวัดขอต่อนายอำเภอท้องที่ ที่มีภูมิลำเนาอยู่

๒.หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
- บัตรแระจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ที่ผู้ขอมีภูมิลำเนาเป็นผู้รับรองความประพฤติ ( สำหรับท้องที่ต่างจังหวัด) พร้อมหลักฐานแสดงฐานะ และหลักทรัพย์
-ในกรณีที่เป็นข้าราชการต่ำกว่าซี ๘ ต้องมรหนังสือรับรองความประพฤติจากผู้บังคับบัญชา

๓.ค่าธรรมเนียม
- ค่าใบอนุญาตให้มีอาวะปืน(ป.๔)
- ปืนยาวประจุปากกระบอก ปืนอัดลม บันละ ๕๐ บาท
- ปืนอื่น ๆ ฉบับละ ๑๐๐ บาท
- ค่าใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (ป.๓) กระบอกละ ๕ บาท

การขออนุญาตตั้งร้านค้าแบบเจ้าของคนเดียว

การขออนุญาตตั้งร้านค้าแบบเจ้าของคนเดียว


๑.สถานที่ติดต่อ

ในเขตกรุงเทพมหานครติดต่อที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในต่างจังหวัด

- ในเขตอำเภอที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ให้ติดต่อ ณ สำนักงาน

- ในเขตอำเภอที่กฎหมายกำหนด ให้ติดต่อที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ได้แก่

- จังหวัดตรัง

- อำเภอเมืองตรัง และกันตัง

- จังหวัดนครศรีธรรมราช

- อำเภอปากพนัง

- จังหวัดภูเก็ต

- ทุกอำเภอในจังหวัดภูเก็ต

- จังหวัดสงขลา

- อำเภอหาดใหญ่

- จังหวัดอุบลราชธานี

- อำเภอวารินชำราบ

- ในเขตอำเภอให้ติดต่อ ณ ที่ทำการปกครองประจำแต่ละกิ่งอำเภอ

- ในเขตอำเภออื่น ๆ ให้ติดต่อ ณ ที่ทำการปกครองประจำแต่ละกิ่งอำเภอ

๒.หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง

- บัตรประจำตัวประชาชน

- สำเนาทะเบียนบ้าน

๓.ค่าธรรมเนียม

- เสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการจดทะเบียน ๕๐ บาท

๔.ข้อควรทราบ

- การค้าเร่ การค้าแผงลอย หรือพาณิชย์เพื่อบำรุงศาสนาใด ๆ หรือเพื่อการกุสลพาณิชย์กิจของนิติบุคคล ซึ่งได้มี พ.ร.บ. หรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น พาณิชย์กรทรวง ทบวง กรมพาณิชย์ ของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ พาณิชย์ ซึ่ง รมต. ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ยกเว้นไม่ต้องไปจดทะเบียน

การขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนตัวและรถจักรยานยนต์

การขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนตัวและรถจักรยานยนต์


๑.อายุของผู้ทำใบขับขี่

- ผู้ขอต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์

- ผู้ขอทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ความจุกระบอกสูบขนาดไม่เกิน ๙๐ ลูกบาศก์เวนติเมตร ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๕ ปี บริบูรณ์

๒.สถานที่ติดต่อ

- มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครไปติดต่อสำนักงานทะเบียนรถยนต์กรมขนส่งทางบก หรือสำนักงานทะเบียนรถยนต์ สาขาที่เขตบางขุนเทียน เขตพระโขนง เขตหนองจอก หรือเขตตลิ่งชันแล้วแต่กรณี มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ไปติดต่อ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขา (ถ้ามี)

๓.หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง

- บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือ หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแล้วแต่กรณีพร้อมภาพถ่าย

- ภาพถ่ายหรือสำเนาทะเยียนบ้าน , ใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือหลักฐานแสดงที่พักอาศัยในราชอาณาจักร หรือผู้ยื่นคำขอในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอเป็นคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองซึ่งมิใช่เป็นการเข้ามาเพียงการท่องเที่ยว การเล่นกีฬา หรือการเดินทางผ่านราชอาณาจักรแล้วแต่กรณี

- ใบรับรองแพทย์ แสดงว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถและไม่เป็นบุคลวิกลจริต หรือ จิตฟั่นเฟือน

- รูปถ่ายครึ่งตัวหน้าตรง ไม่สวมหมวก และแว่นดำ เว้นแต่บุคคลซึ่งจำเป็นต้องสวมหมวกหรือดพกผ้าตามลัทธิศาสนาของตน ขนาด ๓*๔ เซนติเมตร จำนวน ๒ รูป ซึ่งถ่ายก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน ๖ เดือน

- ถ้ามีหลักฐานดังต่อไปนี้ต้องนำไปด้วย

- ใบอนุญาตเป็นผู้ขอรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกหรือกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร

- ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศตามอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ทำ ณ นครเจนีวา ค.ศ.๑๙๔๙

การ "ให้"

ให้


การให้ตามกฎหมายคืออะไร เรามาดูตัวบทกฎหมายกันดีกว่า กฎหมายบอกว่า "อันว่าให้นั้นคือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ให้โอนทรัพย์สินของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับ และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น"

ให้โดยเสน่หา ก็คือ ให้ด้วยความรัก ความพอใจ ของผู้ให้นั้นแหล่ะ

ที่นี้เมื่อให้แล้วจะเอาคืนได้หรือไม่ มีทั้งได้และไม่ได้

เดี๋ยว อย่าพึ่งหาว่ากวนอวัยวะเบื้องล่าง เหตุที่เขียนอย่างนี้เพราะกฎหมายเขาบอกว่า

"อันผู้ให้จะเรียกให้ถอนคืนการให้ เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้นท่านว่าอาจจะเรียกได้เพียงแต่ในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้

1) ถ้าผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาญาอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญาหรือ

2) ถ้าผู้ได้รับทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง

3) ถ้าผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้ และผู้รับยังสามารถจะให้ได้"

กฎหมายเรียกคืนการให้ได้เพราะเหตุ 3 อย่างข้างต้นนี้เท่านั้น แต่กฎหมายก็ยังเข้มงวดจำกัดลงไปอีกว่า ถึงแม้จะคืนการให้ได้ด้วยเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณก็ตาม "เมื่อผู้ให้ได้อภัยแก่ผู้รับในเหตุประพฤติเนรคุณนั้นแล้วก็ดี หรือเมื่อเวลาล่วงเลยไปแล้ว 6 เดือน นับแต่เหตุเช่นนั้นได้ทราบถึงบุคคลผู้ชอบที่จะเรียกถอนคืนการให้ได้นั้นก็ดี ท่านว่าหาอาจจะถอนคืนการให้ได้ไม่

อนึ่ง ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดี เมื่อพ้นเวลาสิบปีภายหลังเหตุการณ์เช่นว่านั้น

เห็นมั้ย ถึงแม้จะเรียกคืนการให้ด้วยเหตุประพฤติเนรคุณแต่ถ้าหากผู้ให้ได้ให้อภัยแล้วก็หมดสิทธิที่จะถอนคืนการให้ หรือปล่อยให้เวลาล่วงพ้นไปแล้วถึง 6 เดือน นับแต่ได้ทราบเหตุที่ผูรับประพฤติเนรคุณ ก็ถอนคืนการให้ไม่ได้ และหากว่าจะทราบเหตุถอนคืนการให้เมื่อเวลาล่วงพ้นไปแล้วถึง 10 ปี ก็ฟ้องไม่ได้เช่นกัน

ในกรณีที่ตอบว่า "ไม่ได้" ก็มีกฎหมายเขาเขียนไว้ว่า

"การให้อันัจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านว่าจะถอนคืนเพราะเหตุเนรคุณไม่ได้คือ

1) ให้เป็นบำเหน็จสินจ้างโดยแท้

2) ให้สิ่งที่มีค่าภาระติดพัน

3) ให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา

4) ให้ในการสมรส

ถ้าอยู่ในสี่จำพวกนี้แล้วหมดสิทธิถอนคืนการให้เด็ดขาด

เรามาดูความหมายของแต่ละข้อดีไหม จะได้รู้ว่าให้แบบไหนที่ถอนคืนการให้ไม่ได้ แม้จะเป็นเพราะเหตุเนรคุณ

ให้เป็นบำเหน็จสินจ้างโดยแท้ ก็คงเป็นที่เข้าใจโดยง่ายว่าเป็นเรื่องของการให้เป็นค่าจ้างหรือการตอบแทนผู้รับได้ทำอะไรให้แก่ผู้ให้ซึ่งไม่ใช่เป็นการทำให้กันเปล่า ๆ แต่ผู้รับก็ทำให้โดยไม่ได้คิดค่าจ้าง ผู้จ้างก็เลยยกทรัพย์สินให้เป็นบำเหน็จ

ให้สิ่งที่มีค่าภาระติดพัน หมายถึง เป็นการให้ที่ผู้ให้ได้ให้ทรัพย์สินไปแล้ว แต่มีเงื่อนไขให้ผู้รับต้องปฏิบัติต่อไปเกี่ยวกับการให้นั้น เช่น พ่อจะยกที่ดินให้ลูกแต่มีเงื่อนไขให้ลูกใช้หนี้และไถ่จำนองก่อน เมื่อลูกใช้หนี้และไถ่จำนองให้แล้ว พ่อจึงยกที่ดินให้ลูก กรณีที่พ่อให้ลูกกรณีนี้ เป็นการให้สิ่งที่มีค่าภาระติดพัน

ให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา เป็นกรณีที่ผู้ให้ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย แต่มีหน้าที่ตามศีลธรรมตัวอย่างที่หนึ่ง กรณีชายฉุดคร่าหญิงไปเป็นภรรยา ต่อมาได้ขอขมาและยกที่ดินให้กับพี่ชายของหญิง ซึ่งพี่ชายของหญิง ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงดูแต่เมื่อชายยกที่ดินให้เช่นนี้ เป็นการให้ตามหน้าที่ธรรมจรรยา เอ้า ลองมาดูอีกหน่อย พ่อยกที่ดินที่มีราคาสูง และทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ลูกสาวแต่ผู้เดียว บุตรคนอื่นไม่ให้กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา นะ เป็นการให้โดยเสน่หา ซึ่งสามารถถอนคืนการให้ เพราะเหตุเนรคุณได้

ให้ในการสมรส โดยความหมายแล้ว ก็คือ ให้ในขณะทำการสมรส หรืออาจจะให้ก่อนสมรส แต่ต้องไม่ใช่ให้หลังการสมรส

เรื่องของการให้อย่างง่าย ๆ ที่ผู้อ่านพอจะทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ ก็มีแค่นี้หล่ะ

เมื่อลูกถูกหมา (คนอื่น) กัด

ลูกถูกหมา (คนอื่น)กัด

เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนเห็นคนเดินจูงสุนัขเกลื่อนไปหมด บางคนเอาสุนัขไปแปลงโฉมตัดขนเล็มขน บางคนจับมันแต่งตัวใส่กระโปรงนุ่งกางเกง ถึงกับมีร้านตัดชุดสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ แถมเวลาเจ้าของมีธุระต่างจังหวัดไม่ส่ามารถเอาสุดที่รัก(สุนัข) ไปด้วย ยังเอาสุดที่รัก(สุนัข) ไปเข้าโรงแรมสำหรับสุนัขได้ด้วย

แต่ก่อนหาคนอยากเรียนหมอรักษาสัตว์หรือสัตวแพทย์ลำบากเหลือเกินเดี๋ยวนี้สัตวแพทย์รายได้ดีมาก ต่างคนต่างแย่งกันเรียน เปิดคลีนิครักษาสัตว์เฉพาะสุนัขก็รวยไม่เลิกอยู่แล้ว ท่านผู้อ่านลองสังเกตดูว่า เดี๋ยวนี้โลกมันกลับตาละปัตร สายอาชีวะแต่ก่อนว่าด้วย แต่เดี๋ยวนี้จบสายอาชีวะสามารถทำเงินได้มากกว่าสายสามัญ ขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นบ้านที่คนจนเขากินกัน เดี๋ยวนี้ขึ้นภัตตาคาร ราคาแพง น้ำพริกกุ้งเสียบแต่ก่อนชาวบ้านกินกัน เศรษฐีต้องกินหูฉลาม เดี๋ยวนี้ น้ำพริกกุ้งเสียบชุดละ 60 บาท ดังนั้น หากท่านผู้อ่านคิดจะทำอะไร ลองนึกถึงเรื่องเก่า ๆ แล้วหยิบของเก่า ๆ สมัยโบราณมาทำขายดูซิ ดีไม่ดีอาจจะเป็นเศรษฐีในพริบตา

คุยนอกเรื่องไปเยอะแลย เรากลับมาเรื่องสุนัขของเราต่อนะครับ การเลี้ยงสุนัขบางคนเลี้ยงลูกสุนัขขนาดใหญ่ดูท่าทางน่ากลัว บางคนก็เลี้ยงสุนัขพันธุ์ล่าเนื้อ เอาดุ ๆ เข้าว่า ขโมยโจรได้ยินเสียงต้องถอยฉากก่อนว่างั้นเหอะ บางคนเลี้ยงขนาดกระเป๋า บางคนเลี้ยงขนาดรูปร่าง พันธุ์เห่ามั่งไม่เห่ามั้ง ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่

วันดีคืนดี ถ้าเราเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ มันจะเข้ามาถ่ายในสนามหน้าบ้านเป็นประจำ ถ้าไม่เปิดประตูมันัก็ไม่มายุ่ง จนวันหนึ่งทนไม่ได้จึงปักป้ายว่า "ถ้าหมายเข้ามาขี้อีก หมาตาย" ปรากฎว่าน่าแปลกที่สุนัขบ้านเพื่อนบ้านมันฉลาดมาก มันอ่านป้ายรู้เรื่อง ตั้งแต่นั้นมามันไม่เคยเข้ามาถ่ายในสนามหน้าบ้านอีกเลย

ท่านผู้อ่าน เมื่อนึกถึงลูกอันเป็นดวงใจของเราจะตัวเล็ก ตัวใหญ่ขนาดไหน ก็ตามอาจจะเคยถูกหมาไล่งับมาบ้าง ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็ถูกหมาเห่า เพียงแค่นั้นไม่เกิดปัญหามาให้เราคุยกันแน่ แต่ที่เรามาคุยกันวันนี้ เป็นกรณีที่หมามันกัด แต่ถ้าเป็นหมาของคนที่ไม่ค่อบชอบขี้หน้ากันอยู่ คงจะปรึกษาว่าทำอย่างไรที่จะเอามันเข้าคุกให้ได้ อย่าเพิ่งถึงขนาดนั้นเลย

ก่อนอื่นเรามาดูหลักกฎหมายกันก่อน เพราะเรื่องนี้มีกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ในทางอาญา กฎหมายเขาบอกว่า " ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้ายปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินครึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

เห็นไหม ยังไม่ต้องถึงไม่กัดใครเข้านะ เพียงแค่เดินไปคำรามแฮ่ ใส่คนโน้น คนนี้ เจ้าของก็นโดนแจ๊คพอต เข้าให้แล้ว คำว่าสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย หมายถึง สัตว์อะไรก็ได้ที่มันดุร้ายหรือมันร้าย รวมถึงหมาที่เห็นคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่เจ้าของแล้วกระโจนใส่ แต่ไม่หมายรวมถึงลูกเกเรของใครที่พอออกนอกบ้านแล้วชอบเที่ยวไปตีหัวหรือชกต่อยลูกคนอื่น เพราะเขาเป็นมนุษย์ไม่ใช่สัตว์

ในทางแพ่ง กฎหมายเขาบอกไว้ว่า "ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยง รับรักษาไว้แทนเจ้าของ จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหาย เพื่อความเสียหายอย่าง ใด ๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่จะได้พิสูจน์ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยง การักษาตามชนิด และวิสัยของสัตว์หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่นหรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้น ย่อมจะต้องเกิดมีขึ้นทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น

อนึ่ง บุคคลผู้ต้องรับผิดชอบดังกล่าวมาในวรรคต้นนั้น จะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลผู้ที่เร้าหรือยั่วสัตว์นั้นโดยละเมิด หรือเอาแก่เจ้าของสัตว์อื่น อันมาเร้าหรือยั่วสัตว์นั้น ๆ ก็ได้

ดังนั้น หากเกิดกรณีลูกของท่านถูกหมากัดคนอื่นกัด ก็คงจะต้องพูดคุยเจรจากันก่อน หากหัวหมอก็ไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับเจ้าของหมา แต่เนื่องจากเป็นความผิดลหุโทษ ตำรวจอาจเปรียบเทียบปรับได้ แต่หากท่านในฐานเป็นผู้เสียหายไม่ยอมให้เปรียบเทียบปรับ ตำรวจก็จะส่งเรื่องไปที่อัยการ แล้วอัยการก็จะไปยื่นฟ้องเจ้าของหมาที่ศาล

ส่วนในเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายหากตกลงกันได้เองก็จบกันไป แต่ขอแนะนำว่าน่าจะตกลงอะไรกันให้ทำบันทึกไว้ หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องไปยื่นฟ้องที่ศาลเรียกร้องค่าเสียหาย

แต่ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมาย อย่าลืมล้างแผลให้ลูกด้วยสบู่ก่อนนะ แล้วพาไปหาหมอ จากนั้นก็ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมหมาที่มากัดลูกเรา ว่ามีอาการโรคกลัวน้ำหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องรีบดำเนินการให้หมอจัดการฉีดยาแก้โรคกลัวน้ำเสียนะ

ผู้หญิงควรทำ

เรียกกำลังใจที่เบลอให้มีสติอีกครั้ง

1."แล้วมันจะผ่านไป" คำว่า "ทำไม" บางครั้งก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองช้ำ ๆ เลิกคิดเถอะ เพราะเรื่องบางอย่างก็ไม่มีเหตุผลหรอก แทนที่จะหาคำตอบ เราต้องเติมตัวเองให้เต็มซะก่อนไม่ว่าเราจะเจ็บแค่ไหน บอกเอาไว้ว่านอนหลับแล้วตื่นมา แผลของฉันจะค่อย ๆ ดีขึ้น ไม่ว่าจะอีกกี่วัน กี่เดือน หรือเป็นปี ฉันก็จะรอวันนั้น

2. หาสมดุลให้ตัวเอง ไม่เห็นยากอะไร ขอแค่มีเวลาพักผ่อนนอนหลับบ้าง กินอาหารอร่อย ๆ อยู่กับตัวเองคนเดียวเงียบด ๆ และแบ่งไปทำสิ่งที่รัก บางครั้งทีคุณขี้เกียจทำงาน ลองนั่งนึกถึงตัวเองวันหยุดสุดสัปดาห์นี้จะได้ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน อยู่ ๆ ก็เหมือนมีพลังปั่นงานให้เสร็จจะได้ไปเที่ยวอย่างมีความสุข ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ออฟฟิศ
3. ซื้อดอกไม้ให้ตัวเอง ไปตลาดแล้วหาซื้อดอกไม้สีและกลิ่นที่คุณชอบมาตั้งไว้ที่ที่คุณนั่งบ่อย ๆ โต๊ะทำงานหรือห้องดูทีวี โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ทำการศึกษาบอกว่าคนเราจะผ่อนคลายและสดชื่นขึ้นหลังจากที่อยู่รอบล้อมด้วยดอกไม้สด ๆ 2-3 วัน ถ้าคุณรู้สึกดีกับตัวเองแล้วจะซื้อเผื่อให้เพื่อนหรือแฟนด้วย ใจคุณจะมีความสุขมากขึ้น

4. หายใจลึก ๆ ระหว่างวันที่คุณเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็มีบางแวบที่ท้อขึ้นมาอีกแล้ว หายใจลึก ๆ ช้า ๆ บอกตัวเองให้รับรู้ว่าเวลานี้คุณต้องทำอะไรที่สำคัญกว่าและมีคุณค่ากับตัวเอง ต่อจากนั้นคุณจะพร้อมที่จะลงมือสู้ต่อไป

5. เป็นตัวของตัวเอง เคยไหมที่อยู่ในกลุ่มคนที่เรารู้สึกอึดอัด ไม่รูจะคุยอะไรด้วยต้องเออออทั้งที่ในใจไม่เห็นด้วย ไม่ต้องไปเครียดแค่ยอมรับว่าก็ตัวฉันเป็นแบบนี้ เวลาพยายามเป็นคนอื่นมันเหนื่อยมาก คุณไม่เหมือนคนอื่น ทำใจให้นิ่งสบายแล้วปล่อยตัวไปตามกระแสที่ใจอยากให้เป็นพอ

6. อยู่กับคนที่คุณไว้ใจ เพราะคุณไม่ต้องสร้างกำแพงป้องกันตัวว่าฉันจะโดนทำร้ายวันไหน อย่างน้อยก็รู้ว่าคน ๆ นั้นต้องคิดดีและทำดีกับคุณแน่นอน เราอยากบอกว่าคนกลุ่มนี้คุณต้องเก็บเขาไว้ดี ๆ ไม่ว่าจะครอบครัวหรือเพื่อน คุณไม่ต้องร้อนรนเจอเรื่องร้ายแค่ไหน ใจคุณก็แกร่งที่จะรับมัน

ยังไม่แก่ก็ปวดหลังซะแล้ว

ยังไม่ทันแก่ ก็ปวดหลังซะแล้ว


หลังทำงานอย่างไร หลังของเราทุกคนจะมีกระดูกท่อนเล็ก ๆ 24 ท่อนเรียงต่อักนเป็นกระดูกยาว ๆ ที่งอได้เหมือนงู เรียกว่า กระดูกสันหลัง เชื่อมต่อระวห่าง กระดูกเชิงกราน บริเวณก้น กับกระโหลกศรีษะ ทำให้เมื่อกระดูกส่วนในส่วนหนึ่งเคลื่อนไหวก็จะมีผลต่อกันทั้งแถบ เช่น แค่ก้มหัว กระดูกสันหลังส่วนบนก็ขยับตามไปเช่นกัน

เราปวดหลังแบบไหน

1.ปวดทั้งหลัง ตั้งแต่ต้นคอถึงหลังส่วนล่วงบางทีอาจปวดไหล่ และแขนด้วย
เกิดจาก: กล้ามเนื้ออักเสบ เพราะใช้งานหนัก หรือเคลื่อนไหวผิดท่า หรือฝืนมากไป ส่วนใหญ๋มักไม่เรื้อรัง ขึ้นอยู่กับว่าเราทำอิริยาบทนั้นนานแค่ไหน เช่น เอื้อมหยิบของที่อยู่ไกล ๆ หรือออกกำลังกายหักโหม อาการปวดควรจะหายไป หลังจากกล้ามเนื้อได้กลับสู่สภาพปกติ 3-4 วัน ถ้าไม่หาย ควรรีบปรึกษาหมอ เพราะอาการอาจกลายเป็นเรื้อรัง หรือเป็นที่เส้นประสาทได้

2. ปวดคอและท้ายทอย รู้สึกเมื่อยล้าหรือตึง ๆ ที่ต้นคอ หรือมากขึงขั้นปวดหัวในบางที่
เกิดจาก : การไม่ได้ผ่อนคลายของช่วงต้นคอ อาจเป็นเพราะการนั่งมองจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรือนั่งทำงานโดยไม่ได้เปลี่ยนท่านั่งเลย ก้มหน้านานไปหรือเงยมากไป นอกจานี้การใช้สายตานาน ๆ กับความเครียดก็เป็นสาเหตุเช่นกัน แค่ลองพยายามผ่อนคลาย โดยการเปลี่ยนท่านั่ง บริหารต้นคอโดยหมุนหัวช้า ๆ พักสายตาเป็นระยะเท่านั้น และให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ บนโต๊ะทำงานอยู่สในตำแหน่งต่อไปนี้

- จอคอมพิวเตอร์ อยู่ห่างจากตายอย่างน้อย 1 ฟุต หรือลองนั่งหลังตรง แล้วเอื้อมมือไปข้างหน้า ถ้ายังแตะไม่โดนจอ นั่นหล่ะโอเค

- คีย์บอร์ด วางในตำแหน่งที่เวลาพิมพ์ ข้อมือจะต้องไม่งอขึ้น

- เม้าส์ ให้อยู่ใกล้มือให้มากที่สุด ไม่ต้องเอื้อมหรือเกร็งแขนและการมีแผ่นรองเม้าท์ที่มีหมอนรองข้อมือช่วยได้มาก

3. ปวดหลังช่วงล่าง หรือบริเวณเอวลงไปจนถึงเชิงกราน
เกิดจาก : การปวดหลังบริเวณนี้มักเกิดจากเคยบาดเจ็บ หรือเคล็ดขัดยอกมาก่อน เช่น เอื้อมหยิบของสุดแขนจนเส้นพลิก หรือท่าซิทอับที่ผิด ๆ อาจลองปรึกษาหมอเพื่อรักษา นอกจากนี้ช่วงก่อนมีประจำเดือน ก็อาจทำให้สาว ๆ ปวดหลังบริเวณนี้ได้เหมือนกัน ให้ลองสังเกตว่าตรงกับช่วงเวลาเดียวกันหรือเปล่า ถ้าใช่ละก็ แค่ลองออกกำลังกายให้สม่ำเสมอมากขึ้นเท่านั้น

ผู้หญิงควรรู้

ผู้หญิงควรรู้


สดใสได้เสมอ แม้เป็นวันนั้นของเดือนเมื่อใกล้ช่วงมีประจำเดือน ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดหัว ปวดท้อง ครั่นเนื้อครั่นตัว อารมฌ์แปรปราวน มีสิวขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่ม เพราะก่อนมีประจำเดือน ร่างกายจะปรับระดับของฮอร์โมนเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นเราจึงมีวิธีรับมือกับอาการดังกล่าวมาฝากกัน

1. รับประทานอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ ลดน้ำตาล เกลือ คาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของอาการปวดท้องและอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่จะเกิดช่วงมีประจำเดือน งดอาหารที่รบกวนการทำงานของลำไส้ เช่น น้ำเย็น อาหารรสจัดทั้งหลาย รวมถึงอาหารที่ยอยยาก

2. ใช้สมุนไพรช่วย เช่น ตังกุย ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่ใช้กันแพร่หลาย สารสกัดในตังกุยเป็นตัวช่วยในการต้านการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ลดอาการปวดเมื่อยตามตัว รวมทั้งสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

3. ออกกำลังกาย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 20-30 นาที นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรง ผลดีที่ได้รับอีกอย่างคือ อาการไม่สบายต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนจะลดลง หรือแทบไม่มีเลย โดยเฉพาะถ้าออกกำลังกายเป็นประจำ

4.เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการดื่มชาสมุนไพรร้อน ๆ หรือน้ำอุ่น ๆ ขณะเดียวกันก็ใช้ผ้าอบร้อนที่เพียงพอจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ดีทีเดียว

5. พักผ่อนให้เพียงพอ การจัดระบบการนอนที่ดีช่วยได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ และการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ดีทีเดียว

ลองนำวิธีต่อไปนี้ไปทำตามกันดู หากรู้จักเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ ต่อให้เป็นวันไหน ๆ ของเดือน คุณก็ยังคงดูสดใสได้เสมอนะคะ

จะนั่งจะยืนดูดีได้ทุกเวลา

จะนั่งจะยืนดูดีได้ทุกเวลาอยากเป็นมั้ยล่ะ?
ยืนให้สวยแล้วได้อะไร?



ถ้าคุณรู้จักยืนให้ดี คุณจะดูผอมลง 5 กิโลกรัมโดยที่ไม่ต้องออกกำลังให้เหนื่อยเลย เพราะยืดหลังเมื่อไหร่หน้าท้องที่เคยย้วยจะยกขึ้น สะโพกเล็กเพราะไม่มีห่วงยางไปกอง บางคนที่ยืนแล้วหลังค่อมอาจจะเพราะรู้สึกสบาย แต่ไม่ใช่ทำที่ทำให้รู้สึกดีไปได้ตลอดคุณสบายพักเดียวจากนั้นก็จะเมื่อยยาว เพราะถ้าคุณดูทีวีหรือเล่นอินเตอร์เนตเพลินจนไม่ได้เปลี่ยนท่า แล้วถ้าติดจนเป็นนิสัยอาจทำให้เป็นโรคกระดูสันหลังคด (Scoliosis) เราเคยได้ยินมาว่าสาวบางคนผ่านการคัดเลือกเป็นแอร์โฮสเตสรอบสุดท้าย แต่ต้องมาพลาดเพราะตรวจเจอว่าเธอกระดูกสันหลังคดนี่เอง

แล้วเราจะฝึกตัวเองให้บุคลิกดียังไง?

อะไรที่เราทำมานาน เวลาที่จะเปลี่ยนมันก็จะยาก กล้ามเนื้อดูฝีดไปทุกส่วน ลองออกกำลังที่เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เช่น ยกเวทหรือว่ายน้ำ โดยเฉพาะคนที่เล่นพีลาทีสจะยิ่งดีเพราะเน้นกล้ามเนื้อหลักบริเวณหน้าท้องให้แข็งแรง จะช่วยลดการปวดหลังได้ คุณจะไม่ค่อยเห็นักกีฬาปวดเมื่อยเท่าไหร่ นอกจากพวกที่ติดทีวีหรือนั่งโต๊ะนาน ๆ มีโอกาสมากกว่า
1. ยืนรอรถนาน ๆ
ลงน้ำหนักที่เท้า 2 ข้างเท่ากัน อย่ายืนเอียง และอย่ากลัวว่าเราจะยืนหลังค่อมจนกลายเป็นแอ่นมากเกินไป เพราะการยืนรอรถบางครั้งเราต้องยืนนาน ถ้ายืนผิดอาจทำให้น้ำหนักไปทิ้งอยู่ที่กระดูกสันหลังอาจจะทำให้ปวดหลังได้ นอกจากนี้ถ้าเราได้ถูกแล้ว ร่างกายจะเผาผลาญได้มากขึ้นด้วยเพราะเรายึดตัวเองไว้ด้วยน้ำหนักทั้งตัวได้

2. นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ด้วยมาดสาวทำงาน
บางทีที่เราเล่นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คในร้านกาแฟหรือที่อื่น ๆ เราจะเพลินจนลืมนึกไปว่านั่งหลังค่อมอยู่นาน ๆ แล้ว ทางแก้ง่าย ๆ เลยก็คือหากระดูกก้นกบของตัวเอง ซึ่งอยู่ระหว่างกระดูกเชิงกรานและกระดูกขา พอรู้แล้วว่าตำแหน่งหลังจะตั้งตรงอัตโนมัติ เพราะถ้าคุณนั่งลึกจนขา หลังจะค่อมทันที ให้น้ำหนักลงที่ก้นกบ คุณจะไม่รู้สึกปวดหลังเหมือนเดิม

3.โดดเด่นในงานปาร์ตี้
คุณคงหนีรองเท้าส้นสูงไม่พ้นสำหรับงานหรู ๆ จำไว้ว่าถ้ายิ่งยืนไม่ตรงเท่าไหร่ก็จะยิ่งเมื่อยเร็วเท่านั้น ถึงคุณจะไส่ส้นสูงแค่ไหน ให้ยืนตรงเมหือนยึดซี่โครงขึ้น (แต่ไม่ใช่แอ่นหลัง) วีธีนี้จะช่วยให้หคุณพยุงน้ำหนักของตัวเองเอาไว้ให้สมดุลทั้งตัว เท้าควรชิดกันส ซึ่งคุณสามารถพักขาได้โดยที่สะโพกไม่โยกตาม

4. ดินเดนอร์แรกกับหนุ่มสุดปลื้ม
ใช้หลักเดียวกับการนั่งบนกระดูกก้นกบ ถึงจะเปลี่ยนเป็นนั่งไขว่ห้างก็ตาม ยึดหลังตรงช่วยให้หน้าอกดูผาย หน้าท้องยุบ เอวคอดขึ้นเพราะดินเนอร์ครั้งแรกคุณอาจจะเขินม้วนบิดไปมา เอาแขนและศอกเท้าโต๊ะ อาจทำให้หนุ่มคนนั้นเห็นร่องอกคุณได้ จากที่ชอบด้วยใจจะเปลี่ยนเป็นอาการหื่นกามแทนซะ และอีกอย่างเลยเวลาที่คุณหลังค่อมหน้าจะเหี่ยวลงอัตโนมัติ ลองยืดตัวดูสิหน้าตึงขึ้นมาเลยใช่ไหมหล่ะ

5. นั่งพับเพียบต่อหน้าผู้ใหญ่
เวลาที่นั่งพับเพียบให้เอาสะดือเป็นจุดศูนย์กลางเหนือสะดือขึ้นมาจนถึงศรีษะเป็นเส้นด้ายที่ถูกยกขึ้น ลังจะยึดตรง ถึงนั่งนานก็จะไม่เกิดอาการปวดหลัง ส่วนมือไม่จำเป็นต้องประสานกันตลอดเวลาก็ได้ ให้ตัวเองดูเป็นธรรมชาติที่สุด

กลเม็ดของจอมบงการ

กลเม็ดของจอมบงการ
กลเม็ดของจอมบงการ มีอย่างน้อยสิบกว่าวิธีที่จอมบงกาใช้ชักใยคนอื่นให้ทำตามต้องการ ระวังวิธีเหล่านี้ให้ดี

1. ปฎิเสธ เมื่อเขาไม่ยอมรับว่าได้ทำผิดพลาดเขากำลังเล่นบทผู้บริสุทธิ์ เขาอยากให้คุณรู้สึกว่าคำกล่าวหาของคุณไม่มีหลักฐานหรือไม่ยุติธรรม

2. ทำไม่รู้ไม่ชี้ คล้ายกลับการปฏิเสธ เขาจะ "แกล้งโง่" ไม่ใส่ใจคำเตือน คำขอหรือความต้องการของคุณ หรออะไรก็ตามที่อาจทำให้เขาหันเหจากสิ่งที่เขาตั้งใจทำ

3. ให้เหตุผล จอมบงการมักจะมีเหตุผลอธิบายพฤติกรรมตัวเองและเอาตัวรอดได้เสมอ ถ้าเขาอธิบายตัวเองได้ เขาก็จะทำตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

4. เบี่ยงเบนประเด็น จอมบงการจะถนัดนักในการเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเมื่อคุณต่อว่าเขา พวกเขาใช้การเบี่ยนเบนความสนใจนี้เพื่อไม่ให้คนอื่นจับตามองพฤติกรรมของเขา

5. ลดทอนความสำคัญ จอม่บงการมักจะยืนยันว่าพฤติกรรมเอาเปรียบของเขาไม่ได้อันตรายหรือขาดความรับผิดชอบเหมือนกับคุณอ้าง พวกเขามักจะทำเรื่องใหญ๋ให้ดูเล็กน้อยเสมอ

6. โกหก แน่นอนว่านี่เป็นวิธีบงการที่ใช้กันมานาน ซึ่งเป็นเหมอนเสน่ห์อย่างหนึ่งถ้าคุณโกหกเก่ง

7. กระตุ้นความรู้สึกผิด จอมบงการทุกคนจะบอกว่าคุณไม่ใส่ใจมากพอ หรือเห็นแก่ตัวเกินไป แล้วคุณก็จะเริ่มรู้สึกแย่ทันที โหกร้าย แต่เป็นวิธีบงการที่ง่ายที่สุด

8. กล่าวโทษ การเสียดสี และดูถูก จะเพิ่มความกลัวและไม่มั่นใจในตัวเอง อย่าถูกใครจูงจมูกง่าย ๆ ให้คุณรู้สึกกลัวโดยใช่เหตุ

9. เล่นบทเหยื่อ ลักษณะของการบงการเกิดขึ้นได้จากการที่คนส่วนใหญ่ทนไม่ได้ที่เห็นคนอื่นทุกข์ทรมาน การทำให้คนอื่นเชื่อว่าคุณกำลังเดือดร้อน จะทำให้เขาพยายามช่วยคุณเต็มที่

10. เล่นบทคนรับใช้ การแสร้งว่าทำงานหนักแทนคนอื่น คือวิธีที่จอมบงการใช้ปกปิดแรงทะเยอทะยานของตนเองที่จะครอบงำคุณ

11. ล่อล่วง จอมบงการจะหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่น ชมเชย ยกยอให้คนอื่นยอมมอบความไว้ใจและซื่อสัตย์

12. โทษคนอื่น จอมบงการไม่เพียงจะถนักในการหาแพะรับบาปเท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญในการหาแพะแบบแนบเนียนที่สุดท้วย

ฉันเลิกกับเขาไม่ได้ มันทรมาน

เลิกไม่ได้ ฉันเลิกกับเขาไม่ได้ และก็รู้ว่า มันทรมาน

กี่วันกี่คืนแล้วที่คุณต้องนอนร้องไห้คนเดียว น้อยใจในตัวคนรักเหลือเกิน บางครั้งคุณก็ต้องถามตัวเองว่า " นี่ฉันจะมีคนรักไปทำไม ถ้ามันคบกันแล้วทรมานอย่างนี้ " เจอหน้าเขาแต่ละทีเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย กับแค่บอกเขาว่าเย็นนี้คุณจะไปกินข้าวกับเพื่อนสนิท เขาก็ไม่เข้าใจ หาว่าคุณไม่สนใจเขา ก็เลยต้องจบกันด้วยการทะเลากัน แล้วเขาก็เริ่มขุด ๆๆๆๆ ขุดทุกอย่างออกมว่าคุณ น้ำตาก็เริ่มไหล นี่หรือคนที่รักฉัน และแทนที่เขาจะมาปลอบ ขอโทษคุณ เปล่าเลย เขากลับชี้หน้าบอกคุณว่า "จะร้องไปทำไม" และเกือบทุกครั้งที่มีเรื่องกัน โดยที่คุณไม่ได้เป็นฝ่ายงี่เง่า พอคุณร้องไห้แล้วจะเดินหนีไประงับอารมณ์ กลับมีเสียงเขาไล่หลังมาว่า "ถ้าเดินออกไป เราก็เลิกกันเลยแล้วกัน" ทั้ง ๆ ที่คุณน่าจะเป็นฝ่ายบอกเลิกไม่ใช่หรือ สิ่งที่คุณทำเป็นสิ่งสุดท้าย คือ เดินน้ำตาอาบหน้ากลับมาหาเขา แล้วบอกว่า "ขอโทษเราอย่าเลิกกันเลยนะ"

เหตุการณ์แบบนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดกับคุณที่คบกับเขามาเพียงสามเดือน ผู้หญิงบางคนคบแฟนมาเกือบสิบปี ก็ยังต้องมานั่งน้อยใจเสียใจ ร้องไห้ ทรมาน และอยากเลิกแต่เลิกไม่ได้แบบนี้ด้วยเหมือนกัน

อะไรหล่ะที่ทำให้คุณเลิกกับเขาไม่ได้

ถึงตอนนี้สิ่งเดียวที่เราอยากบอกคุณคือ ขอให้หายใจช้าลง อยู่นิ่ง ๆ สัก 5 นาที ในชีวิตเกิดมาถ้ายังไม่เคยใจนิ่ง ครั้งนี้ขอให้ตั้งไว้นิ่งที่สุดได้มัย เพราะทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวคุณเองทั้งนั้นแล้วมาตอบตัวเองว่า

1. คุณรักเขาที่ตรงไหน
ตำเดือน : กรุณาซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ถ้าหาคำตอบไม่ได้ ก็เขียนว่า ไม่รู้

2. เขารักคุณที่ตรงไหน
คำเตือน : ถ้าไม่แน่ใจก็ถามเขาตรง ๆ มอบตาเขาแบบให้ทะลุถึงหัวใจ และบอกว่า "ฉันขอความจริงจากใจเธอเถอะนะ ช่วยบอกฉันหน่อยเถอะว่ารักฉันที่ตรงไหน? ถ้าเขาตอบไม่ได้ เราตอบคุณแทนได้เลยว่า เขาไม่รู้ซึ่งก็อาจแปลได้ว่า เขาไม่ได้รักคุณ

3. คุณต้องการอะไรในชีวิต
คำเตือน : ตอบตัวเองได้ทุกอย่าง ตอบจากใจ ถึงแม้เหตุผลจะเป็น "อยากได้ความสบาย" "อยากให้รู้ว่าชีวิตมีใคร จะได้ไม่เหงา" หรือจะเป็น "อยากให้ตัวเราและคนที่เรารักมีความสุขใจ" อะไรก็ได้

4. เลือกอะไรระหว่าง
อยู่คนเดืยวและรอคนที่รักเราหมดหัวใจ จริง ๆ กับ คบๆ ไป เขาอาจดีขึ้น แต่อยู่ด้วยแล้วเราไม่มีความสุข

คำเตือน "อย่าหลอกตัวเอง"

5. ตั้งแต่คบกันมา เขาทำอะไรให้คุณรู้สึกว่า
เขาได้เสียสละ และพยายามจะทำให้คุณมีความสุขบ้าง?
คำเตือน : เสียสละ แปลว่า ยอมเสียสละอะไรบางอย่างด้วยใจรักและไม่เป็นทุกข์
พยายามแปลว่า พยายามทำในสิ่งที่อาจไม่เคยทำหรือยากมาก ๆ

6. คุณมีความสุขกับตัวเองได้ โดยไม่ต้องมีใครไหม?
คำเตือน : มีความสุขอันนี้หมายถึง หัวใจสุข กำลังดี ไม่เหวี่ยง ไม่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ

7. คุณดูแลตัวเองได้ดีมั้ย ?
คำเตือน : เราหมายถึงดูแลทั้งทางร่างกายและจิตใจนะ

8. คุณติดกับความรู้สึกว่า
"ฉันมีแฟน" มากกว่า "ฉันอยากให้ตัวเองมีความสุข" หรือเปล่า
9.มีเพื่อนสนิท พ่อแม่ น้อง ญาติ คนไหนบ้าง ที่ชอบแฟนคุณ ?
คำเตือน : เราขอให้เอาแต่คนที่เขารักคุณจริง ๆ เท่านั้น เพื่อนที่ไม่ได้รักคุณจริง ไม่นับนะ

10. สามารถนึกภาพตัวเองเป็นผู้หญิงมีความสุข โดยไม่ต้องมีผู้ชายคนนี้ได้ไหม?
ไม่ต้องตกใจว่า .... ถ้าถามตัวเองมาทั้งหมด 10 ข้อนี้แล้ว คุณเกิดอาการ อึ้ง นี่เราไม่เคยคิดมาก่อนเลย หลอกตัวเอง พยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองแต่ลึก ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ หรือแค่คำถามที่สองว่า เขารักคุณที่ตรงไหน ทำให้คุณน้ำตาไหลพรากขึ้นมาเราขอบอกว่า

นั่นหล่ะ! คือเหตุผลที่คุณเลิกกับเขาไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องตกใจว่าเนื้อแท้ของเหตุผลส่วนใหญ๋จะเป็นเพราะคุณ
1. ไม่มั่นใจว่าตัวเองมีอะไรเจ๋งอีกเยอะ ที่ไม่เห็นต้องง้อใคร
2. หลอกตัวเองเพื่อให้รู้สึกดี เพราะรูสึกไปเองว่า อยู่คนเดียวยากกว่าการมีแฟน
3. พอรักใครปุ๊บ ก็ไม่เข้าใจว่าจะเลิกรักได้ยังไงเพื่ออะไร แล้วดีกว่าจริงหรือ
4. มันยากเหลือเกิน และว้าเหว่าเหลือเกินที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขด้วยตัวเอง
5. อยากเป็นผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า มีคนรักและมีคนดูแล

25 สิ่งที่ผู้ชายอิจฉาเรา

25 สิ่งที่ผู้ชายอิจฉาเรา ?


สาว ๆ มักจะชอบบ่นกันอยู่เรื่อย ๆ ว่า "เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก" มันก็จริงอยู่ที่บางทีเราก็รู้สึกอิจฉาผู้ชายที่เขาแข็งแรงกว่า ทำอะไรบางอย่างได้ดีกว่า จะเจ้าชู้หยอดสาวไปทั่วก็กลายเป็นหนุ่มเสน่ห์แรง ในขณะที่เราทำบ้างจะกลายเป็น "ยัยนี่กระซู่กูปรีโคไพร" แต่เมื่อเราได้ไปคุยกับชายหนุ่มมากหน้าหลายตามาก็พบว่า พวกเขาก็มีเรื่องที่อิจฉาผู้หญิงอย่างเราอยู่เหมือนกัน และเรื่องพวกนี้ก็ทำให้เขาเฝ้ามองผู้หญิงด้วยแววตามไฟลุกท่วมเป็นชาวไซย่าในการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอลแซดทุกครั้ง

1.ดริ๊งค์ฟรีไม่น่าเกลียด แค่คุณยิ้มเอียงอาย เขิน ๆ พอน่ารักแล้วก็โปรยเสน่ห์ใส่เขานิดหน่อย ผู้หญิงก็สามารถดึงดูดความสนใจหนุ่มที่อยู่หน้าบาร์ตรงนั้นให้พร้อมควักกระเป๋าเลี้ยงคุณสักดริ้งค์ได้โดยที่คุณไม่ต้องเอ่ยปาก แค่ปรายตามมองผู้ชายส่วนใหญ่เขาก็เข้าใจแล้วว่าต้องทำยังไง การเลี้ยงดริ๊งค์ยังถือเป็นการทลายกำแพงที่จะเข้าไปพูดคุยทำความรู้จักกับเธอได้โดยที่ไม่มีผู้ชายคนยไหนคิดมากที่จะใช้วิธีนี้ ในณะที่คงไม่มีผู้หญิงคนไหนจะสั่งดริ๊งค์มาเลี้ยงเขาแบบนี้บาง

2. ไม่ต้องเมาก็เม้าท์ได้ ว่าด้วยด้วยเรื่อง ของแอลกอฮอล์ย้อมใจ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องกระดกเหล้ากันเป็นขวดเพื่อที่จะคุยปัญหาชีวิตหรือเรื่องที่มีความหมายกับเพื่อนสาว ๆ แต่สำหรับผู้ชายเราต้องกระดกเตอกีล่าสักแปดช็อต เบียร์อีกสักเหยือก พวกเขาถึงจะเริ่มฉากสนทนาที่จะพรรณนาถึงชีวิตว่าตอนนี้มันเฮงซย หรือถูกหญิงทิ้งมันเฮิร์ทแค่ไหน หลังจากกรอกวิสกี้ลงไปอีกสองแก้วพวกเขาก็จะเริ่มกอดคอเพื่อนแล้วก็พล่ามไปเรื่อย ๆว่าเรารักเพื่อนนะ ในขณะที่สาว ๆ สามารถเล่าเรื่องอะไรให้เพื่อนฟังก็ได้ทุกเรื่องทุกเวลา

3. "ช่วยหน่อยสิค่ะ" ไม่ว่าเป็นการถามทางในที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือวิธีโหลดเพลงลงไอพอต ผู้หญิงเราไม่เพียงแค่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าได้ง่ายกว่าผู้ชาย แต่พวกเราสาว ๆ ยังได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มใจพร้อม ๆ กับรอยยิ้มที่เป็นมิตรด้วย ผู้ชายส่วนมากเขามักจะไม่มีทักษะหรือการวางตัวในแบบที่จะขอความช่วยเหลือจากใครได้ง่าย ๆ มันคงแปลก ๆ ถ้ารถของเขายางแตกอยู่ริมถนน แล้วก็เปลี่ยนเองไม่เป็น ต้องรอคนผ่านไปผ่านมา แล้วพูดขอความช่วยเหลือด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน

4. ถ้าแมนจริง ต้องกล้าสิ เรื่องสุรายาเมาก็เป็นสิ่งที่ผู้ชายมักจะต้องเอามาใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาแมนกันจริงมั้ย คออ่อนมั้ย ในขณะที่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องดื่มเบียร์แก้วยักษ์แล้วบอกว่า ไม่เมาเพื่อพิสูจน์ความหญิงด้วยเงื่อนไขไร้สาระแบบนี้ในกลุ่มเพื่อน เพราะคุณคงไม่พูดกับเพื่อนว่า " ถ้าเธอเป็นหญิงจริงจะต้องดื่มขวดนี้ให้หมดรวดเดียว ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องถูกจับแก้ผ้า " หนุ่ม ๆ บางคนเขาบอกว่า อิจฉาผู้หญิงตรงนี้หล่ะ

5. มีความสุขกับอะไรง่าย ๆ

6. ทำอะไรหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน

7. ปัญหาจินตนาการ

8. เปลื่อนเสื้อผ้า กระเป๋า เป็นว่าเล่น

9. อาหารหลังเลิกกัน

10. ชุดชั้นในสุดเซ็กซี่

11. แต่งก็ได้หย่าก็ได้

12. ที่รัก... เธอคืเจ้าแม่สปา

13. เซ็กซ์ทอยเพียบ

14. ขนาดสำคัญเสมอ

15. ปกปิดปัญหาสิว

16. ดาราเจ้าน้ำตา

17. สองแก้วเป็นอย่างต่ำ

18. ปรับฮอร์โมนให้ตัวเองได้

19. ยักย้ายส่ายสะโพก

20. นาฬิกาชีวิตสั้นกว่า อายุของผู้ชายเฉลี่แล้วสั้นกว่าผู้หญิงในทุกประเทศทั่วโลกเสมอพวกเรามีโอกาสสนุกและแฮปปี้กับชีวิตบนโลกใบนี้ได้นานกว่าเขา

21. กอดจูบก็พอนะที่รัก ???

22. อคติทางเพศ

23 เธอมีอภิสิทธิ์ตลอด

24 เซ็กซ์โฟน

25. เซนส์เรื่องแฟชั่น